สื่อความจริง

มีนาคม 23, 2010

การปฏิวัติสังคมโดยประชาชน

Filed under: กลยุทธ์ — ภูวเดช @ 4:31 am

การรัฐประหารเกิดขึ้นบ่อยจนแทบจะกลายเป็นเรื่องธรรมดาของการเมืองไทย และข้ออ้างที่นิยมกันมากในหมู่ผู้ทำรัฐประหารคือ นักการเมืองคอร์รัปชั่น เมื่อทำรัฐประหารก็ฉีกรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันขณะนั้นทิ้ง แล้วร่างขึ้นมาใหม่ ให้นริโทษกรรมพวกที่ทำรัฐประหาร จากนั้นก็เลือกตั้งใหม่ ได้นักการเมืองใหม่บ้างเก่าบ้าง เข้ามา ท้ายที่สุดก็ไปลงที่คอร์รัปชั่น แล้วก็ทำรัฐประหารใหม่ วนเวียนอยู่อย่างนี้ เป็นวงจรอุบาทว์ ไม่สิ้นสุด นับตั้งแต่ 2475 เป็นต้นมา การรัฐประหารถือว่าเป็นปัญหาสำคัญที่ต้องแก้ไขไม่ให้เกิดขึ้นได้อีก ปัญหาที่เกิดซ้ำๆแบบนี้ มีรากแห่งปัญหานั้นอยู่ ที่ใช้คำว่าราก ไม่ใช้คำว่าสาเหตุก็เพราะ การรัฐประหารในเมืองไทยเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในขณะที่คิดว่าถูกตัดทอนไม่ให้เกิดได้ แต่ท้ายที่สุดก็เกิดขึ้นได้อีก คล้ายกับต้นไม้ที่หยั่งรากลึกลงไปในดิน แต่เราตัดเหลือเพียงโคน แต่ยังไม่ถูกขุดรากถอนโคนขึ้นมา ถึงเวลาหนึ่งต้นไม้นั้นก็งอกงามขึ้นใหม่ได้ อีก เพื่อที่จะตัดรากถอนโคนการรัฐประหารไม่ให้เกิดขึ้นได้อีก ก็ต้องศึกษาให้ชัดว่า รากของรัฐประหารในเมืองไทยคืออะไร เมื่อรู้แล้วก็จะได้หาวิธีขุดรากถอนโคนทิ้ง การรัฐประหารจะได้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินไทยเสียที

รากแห่งการรัฐประหารของไทย

รัฐประหารเป็นการทำผิดกฏหมาย แต่ทำไมจึงยังนิยมทำกัน พวกที่ทำมักอ้างว่า ในขณะนั้นบ้านเมืองมีปัญหาไม่มี (ปัญญาหา) ทางออกอื่นแล้วจึงยึดอำนาจ เพื่อล้มกระดานให้ เริ่มต้นกันใหม่ แต่เมื่อพิจารณาลึกลงไปแล้ว ต้องถามว่าเริ่มต้นใหม่จริงหรือ ? แล้วก็จะได้คำตอบว่าไม่จริง เพราะหลังจากรัฐประหารทุกครั้ง เป้าหมายที่เป็นถูกอ้างว่าเป็นเหตุแห่งการรัฐประหารถูกจัดการต่อไปทุกครั้ง แล้วทุกๆอย่างก็ดำเนินไปตามที่เคยเป็นต่อไป ไม่ได้ล้มกระดานอะไรเลย ไม่เคยมีอะไรใหม่ นอกจากรัฐธรรมนูญ

จึงสรุปได้ว่า การรัฐประหารเป็นการแก้ปัญหาการเมืองอย่างหนึ่งซึ่งไม่ถูกต้องตามกฏหมาย แต่ผู้คนในเมืองไทยส่วนหนึ่งเชื่อว่าจำเป็นต้องใช้ โดยเฉพาะในขณะที่กำลังเกิดปัญหาทางการเมืองขึ้น นั่นหมายความว่า ผู้คนในบ้านเมืองส่วนหนึ่ง ยอมรับการทำผิดกฏหมายอย่างการทำรัฐประหารถ้าแก้ปัญหาตรงหน้านั้นได้ เมื่อฟังคำพูดเช่นนั้นแล้วก็ดูเหมือนว่าน่าตำหนิคนส่วนนั้นจริง แต่ถ้าลองพิจารณาพฤติกรรมของคนในสังคมไทยให้กว้างๆออกไป จะพบว่า มีเรื่องผิดกฏหมายอีกมากมายที่ (ต้องเรียกว่า) คนส่วนใหญ่ทำอยู่โดยไม่ตะขิดตะขวงใจเลยเช่น การทำผิดกฏจราจร, การทำเป็นไม่เห็นการกระทำผิดกฏหมาย, การคอรัปชั่นไปตามน้ำ, การจ่ายเงินเพื่อฝากลูกเข้าเรียน, เข้าทำงาน เป็นต้น การติดสินบนเจ้าหน้าที่เพื่อกรณีต่างๆ อีกจิปาถะ สาธยายไม่หมด

เมื่อหลายปีก่อนผมกับเพื่อนคนไทย ไปเที่ยวกันในอเมริกา ไปเช่ารถขับกันมีเพื่อน อเมริกันนั่งไปด้วย คนไทยขับรถ หลายครั้งคนไทยขับรถในแบบที่ผิดกฏจราจร เช่น แซงในที่คับขัน จอดรถไม่ถูกที่ เพื่อนอเมริกันจะพูดอยู่เสมอว่า มันผิดกฏหมาย บางครั้งพวกเขาอายจนต้องมุดลงไปหลังเบาะ ในขณะที่คนไทยนั่งกันเฉยๆ และก็พูดเสมอว่า ไม่เป็นไร ทั้งๆที่ไม่มีตำรวจเห็นการกระทำนั้นแต่ คนอเมริกันมีนิสัยเคารพกฏหมายด้วยตัวเอง

เรื่องเล็กๆอย่างกฏจราจรนี้สะท้อนเรื่องใหญ่ได้ เพราะมันคือ ความเคยชิน เมื่อเคยชินบ่อยๆเข้าก็จะกลายเป็น นิสัย เมื่อมีนิสัยอย่างนั้นนานพอมันก็จะซึมซาบเข้าไปกลายเป็น สันดาน ของคน และมันจะพัฒนาจากเรื่องเล็กๆแล้วค่อยๆใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ

ในภาพนี้เราจะเห็นว่า คนไทย ส่วนใหญ่ เคยชิน กับการทำผิดกฏหมายเล็กๆน้อยมาชั่วชีวิตจนไม่รู้สึกว่ามันผิดกฏหมายแล้ว จึงมักจะได้ยินคำพูดว่า ใครๆเขาก็ทำกันอย่างนี้ อยู่เสมอๆ คนที่มีอำนาจน้อยก็เคยชินกับเรื่องผิดเล็กๆน้อย พวกที่มีอำนาจมากหน่อยก็เคยชินกับเรื่องผิดฏหมายที่ใหญ่ขึ้น ตามอำนาจหน้าที่ที่สูงขึ้น (ผมใช้คำว่าอำนาจหน้าที่ นั้นหมายความรวมทุกคน ไม่จำกัดฌฉพาะข้าราชการ เพราะทุกคนมีหน้าที่ทำงานของตัวเองจึงมีอำนาจที่จะทำงานนั้น) เมื่อพิจารณามาถึงตรงนี้ ก็พอจะชี้ได้ว่า รากแห่งการรัฐประหารของไทย ไม่ใช่อะไรที่ไหนไกลเลย แต่มันคือ ความเคยชิน, นิสัย, สันดาน แห่งการยอมรับและทำสิ่งผิดกฏหมาย ของคนไทยส่วนใหญ่ นั่นเอง

วงจรอุบาทว์แห่งการรัฐประหาร

เราทุกคนต่างมีหน้าที่การงานที่ต้องทำของตัวเอง จึงมีอำนาจเพื่อที่จะทำหน้าที่นั้นได้ ตามธรรมชาติการทำหน้าที่ทั้งหลายมักจะพบกับอุปสรรคที่ทำให้ไม่ได้ผลงานตามที่หวังไว้ ท้ายที่สุดจะส่งผลไปเป็นรายได้ไม่พอกับที่จะต้องจ่าย..1 หรือบางคนบางกลุ่มไม่ต้องการทำหน้าที่ แต่อยากจะมีรายได้เยอะ..2 ไม่ว่ากรณีใด ก็มักจะมาจาก ความไม่รู้ ไม่รู้ว่ามีวิธีชนะอุปสรรคนั้นได้, ไม่รู้ว่าต้องทำหน้าที่จึงจะได้มาซึ่งสิทธิ์และรายได้ แต่ด้วยนิสัยที่ยอมรับการทำผิดกฏหมายหากแก้ปัญหาของตัวเองได้ จึงหาทางออกทุกทางด้วยความไม่รู้นั้น ก็มักจะมองเห็นทางออกที่ง่ายๆคือการทำผิดกฏหมาย ผลก็คือการคอรัปชั่นด้วยวิธีต่างๆ เช่น

ชาวบ้านซื้อของ ถ้าแอบเอาของผู้ขายได้บ้างโดยไม่ต้องจ่ายเงินก็จะดี, พ่อค้าขายของถ้าโก่งราคาได้ก็จะทำ, ราคาสินค้าเพิ่มไม่ได้ ก็หาทางกักตุนให้สินค้าขาดตลาด เพิ่มราคาขายขึ้นไปได้, ราชการจะซื้อสินค้าก็เก็บหัวคิวจากพ่อค้า, นักการเมืองก็ใช้อำนาจหน้าที่เอื้อให้พ่อค้าที่ให้ประโยชน์ตอบแทน พูดง่ายๆคือ เกือบจะทุกฝ่ายทุกวงการ มีอำนาจหน้าที่อะไร ก็จะเอาอำนาจหน้าที่นั้น มาหาผลประโยชน์กัน กระทบกันเป็นลูกโซ่ไปเรื่อยทั้งสังคม ใครที่ถืออำนาจมากว่าคนอื่นก็จะหาผลประโยชน์ได้มากกว่าคนอื่นโดยที่ผลผลิตไม่ได้เพิ่มขึ้น นั้นหมายความว่า สังคมไทยต้องจ่ายเพิ่มขึ้นให้กลุ่มคนที่มีอำนาจ โดยที่ผลผลิตไม่เพิ่มขึ้น ในระยาวสังคมไทยจะขาดทุน ซึ่งปัจจุบันก็เห็นภาพเช่นนี้ได้แล้ว ปัญหาท้ายที่สุดก็จะไปลงที่ ต่างกลุ่มต่างชี้หน้ากันว่า อีกกลุ่มนั้นโกงทำลายสังคม แล้วต่างคนต่างออกโฆษณาชวนเชื่อมาว่ากลุ่มตัวเองบริสุทธิ์ โต้กันไปโต้กันมา ดึงมวลชนเข้าไปอยู่กับกลุ่มตัวเองไปเรื่อย วันหนึ่งมวลชนไทยที่เคยเป็นหนึ่ง ก็ถูกแยก เป็น สอง, สาม … จนดูเหมือนจะไม่มีทางออก เพราะไม่มีปัญญามองทางออกอื่น จึงทำรัฐประหาร แล้วก็เริ่มรอบอุบาทว์ใหม่

ช่วยกันขุดรากถอนโคนแห่งการรัฐประหารกันเถิด

การออกกฏหมายเพื่อป้องกันการรัฐประหารไม่เกิดประโยชน์, การออกกฏหมายห้ามคอรัปชั่นก็ทำแล้วก็ไร้ประโยชน์ เพราะ ด้วยนิสัย-สันดาน ยอมรับและทำสิ่งผิดกฏหมายเพื่อแก้ปัญหาได้ เมื่อถึงเวลาที่มีปัญหาก็จะมองทางออกที่ผิดกฏหมายได้อีกอยู่ดี

ทางที่ถูกคือคนในสังคมแก้ตัวเองให้ไม่ยอมรับและไม่ทำสิ่งผิดกฏหมายใดๆ เริ่มตั้งแต่เรื่องง่าย เช่นกฏจราจร ลองพยายามใช้รถใช้ทางในการจราจรโดยไม่ผิดกฏจราจรเลย แล้วก็ไม่ยอมรับและไม่ทำคอรับชั่นใดๆ ถ้าคนไม่ทำสิ่งผิดกฏหมายได้ ชุมชนรอบๆคน เช่นบริษัท ก็จะถูกบังคับให้อยู่ในกฏ ราชการก็โกงไม่ได้ งบประมาณก็จะประหยัดไว้ได้ เมื่อโกงไม่ได้ ก็จะผลักให้คนต้องพัฒนาตัวเองเพื่อทำงานให้มีผลิตผล เมื่อไม่มีการโกง ไม่มีการคอรับชั่น พวกที่อยากจะทำรัฐประหารก็ทำไม่ได้ ด้วยไม่มีเงื่อนไขพอ ทำแล้วชาวบ้านต่อต้านก็อยู่ไม่ได้

ถ้าเราทุกคนช่วยกันแก้นิสัยสันดานตัวเองให้เคารพกฏหมายได้ โดยไม่ต้องไปเรียกร้องอะไรที่ไหน เมื่อนั่นการรัฐประหาร การคอรับชั่น จะหายไปทันที และลักษณะประชาธิปไตยจะเกิดขึ้นโดยอัติโนมัติ การกระทำดังนี้ คือการปฏิวัติสังคมของประชาชนอย่างแท้จริง

ขอปัญญาจงมีแก่ท่านตลอดไป

1 ความเห็น »

  1. […] This post was mentioned on Twitter by ภูวเดช โพธิทัพพะ and indexthai, ภูวเดช โพธิทัพพะ. ภูวเดช โพธิทัพพะ said: Re @indexthai รูปแบบการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับ.. < แก้กฏหมายอย่างไรก็ตาม คนคดก็เป็นนักบุญไม่ได้ ปรับเปลี่ยนปชช.ดีกว่าครับ http://wp.me/pFNQr-2j […]

    Pingback โดย Tweets that mention การปฏิวัติสังคมโดยประชาชน « สื่อความจริง -- Topsy.com — มีนาคม 24, 2010 @ 11:06 am | ตอบกลับ


RSS feed for comments on this post. TrackBack URI

ใส่ความเห็น

บลอกที่ WordPress.com .